สื่อมวลชนได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความสามารถในการชักจูงตลาด โดยสร้างกระแสข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 50 เบสิสพอยต์ จุดเริ่มต้นของกระแสนี้มาจากข้อมูลราคาที่อยู่อาศัย S&P/CaseShiller ที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สื่อมวลชนชั้นนำของอเมริกาเริ่มรายงานว่าคณะกรรมการตลาดเสรีอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้และในระดับเท่าเดิมที่ปรับในการประชุมครั้งที่ผ่านมา เป็นเรื่องธรรมดาที่ดอลลาร์จะเริ่มอ่อนค่าลงทันที

อย่างไรก็ตาม ความจริงคือว่าข้อมูลราคาที่อยู่อาศัยนั้นมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อโดยรวมน้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลมาจากหน่วยงานเอกชนที่ไม่ครอบคลุมตลาดทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา กล่าวได้ว่าข้อมูลนั้นไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ การเน้นที่ข้อมูลรายเดือนในขณะที่ผู้ควบคุมดูภาพรวมรายปี และข้อมูลรายปีจาก S&P/CaseShiller ยังแตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยแสดงการชะลอตัวของอัตราการเติบโตจาก 6.5% เป็น 5.9% เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเป็น 5.8% ส่วนข้อมูลระดับประเทศ ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งตรงกับที่คาดหวังไว้ ในขณะที่อัตราการเติบโตของราคาบ้านรายปีดชะลอตัวจาก 5.3% เป็น 4.5% ในขณะที่ที่คาดการณ์ว่าชะลอตัวเป็น 4.2% ดังนั้นเมื่อสรุปข้อมูลเหล่านี้ ตัวชี้วัดทั้งหมด ยกเว้นแค่ตัวเดียว ไม่มีพื้นฐานที่จะแสดงว่าควรลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเท่านี้ได้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่สื่อมวลชนดูเหมือนจะละเลยข้อเท็จจริงเหล่านี้

แท้จริงแล้ว สื่อมวลชนสามารถมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดได้มาก จนถึงขั้นเป็นการชักจูงชัดเจน น่าเสียดายที่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากในช่วงหลัง อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้มักจะเกิดขึ้นในสภาพที่ปฏิทินเศรษฐกิจว่างเปล่าหรือไม่มีข้อมูลสำคัญ เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ น่าเสียดายที่ปฏิทินเศรษฐกิจจะยังคงว่างเปล่าจนกระทั่งสัปดาห์หน้า ซึ่งหมายความว่าสื่อมวลชนสามารถสร้างกระแสข่าวที่ไม่มีสาระสำคัญให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ได้ทุกเมื่อ และส่งผลให้เกิดความผันผวนอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด ในสภาพที่เป็นเช่นนี้ เราต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ เมื่อใดที่ตลาดเริ่มเคลื่อนไหวภายใต้ข่าวสารใดข่าวสารหนึ่ง กระบวนการนี้อาจใช้เวลานาน บางครั้งนานหลายชั่วโมง

คู่เงิน EUR/USD เกือบจะถึงระดับ 1.1200 ในช่วงที่มีแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงปริมาณการเปิดสถานะยาวที่เพิ่มขึ้น การวิเคราะห์ตลาด Forex อย่างละเอียดพบว่า การขึ้นของเงินยูโรนั้นเชื่อมโยงกับการขายสถานะดอลลาร์อย่างแพร่หลาย

ในกราฟสี่ชั่วโมง เครื่องบ่งชี้ทางเทคนิค RSI เคลื่อนที่อยู่ในบริเวณผู้ซื้อที่ระดับ 50/70 ยืนยันการเพิ่มขึ้นของสถานะยาวในเงินยูโร

เกี่ยวกับเครื่องบ่งชี้ Alligator ในกรอบเวลาเดียวกัน เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) ชี้ขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของราคาปัจจุบัน

ความคาดหวังและแนวโน้ม

สำหรับเฟสการเติบโตต่อไป ราคาจะต้องมีเสถียรภาพเหนือเครื่องหมาย 1.1200 หากเกิดสถานการณ์นี้ขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะถึงจุดสูงสุดในเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ระดับ 1.1276 มิฉะนั้น อาจเห็นการย่อตัวจากระดับ 1.1200

การวิเคราะห์อินดิเคเตอร์เชิงซ้อนสำหรับช่วงเวลาสั้น ช่วงระหว่างวัน และช่วงกลาง ยังคงแนะนำแนวโน้มขาขึ้น